การวัดอุณหภูมิร่างกาย
การวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายสำหรับวัดอุณหภูมิใส่เข้าไปในส่วนหนี่งส่วนใดของร่างกายเพื่อประเมินระดับอุณหภูมิซึ่งเกิดจากความสมดุลระหว่างความร้อนที่ร่างกายผลิตขึ้นกับความร้อนที่เสียไปจากร่างกาย
ค่าปกติอุณหภูมิร่างกายแต่ละวัยมีความแตกต่างกันทั้งนี้คำแนะนำสำหรับการกักกันเพื่อสังเกตอาการ ณ ที่พักอาศัย (Self-Quarantine at Home) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วัดอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป แสดงว่ามีไข้
ข้อควรระวังก่อนการวัดอุณหภูมิร่างกาย
กิจกรรมบางอย่างที่อาจจะส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้นหรือต่ำ ลง เช่น
กิจกรรม | ข้อควรปฏิบัติหลังทำกิจกรรม |
---|---|
การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม | ควรรออย่างน้อย 30 นาที ก่อนวัดอุณหภูมิร่างกาย |
การออกกำลังกาย | ควรรออย่างน้อย 1 ชั่วโมง ก่อนวัดอุณหภูมิร่างกาย |
การอาบน้ำ | ควรรออย่างน้อย 1 ชั่วโมง ก่อนวัดอุณหภูมิร่างกาย |
การวัดอุณหภูมิร่างกายสามารถวัดได้จากหลายทางดังนี้
- ทางปาก – เป็นการวัดอุณหภูมิโดยการวางอุปกรณ์วัดอุณหภูมิไว้ใต้ลิ้น ทั้งชนิดเครื่องวัดอุณหภูมิปรอทแก้วและเครื่องวัดอุณหภูมิชนิดดิจิทัล
- ทางรักแร้ – เป็นการวัดอุณหภูมิโดยให้หนีบอุปกรณ์วัดอุณหภูมิไว้ที่รักแร้
- ทางหู – เป็นการวัดอุณหภูมิด้วยอุปกรณ์วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลทางช่องหู
- ทางผิวหนัง – เป็นการวัดอุณหภูมิโดยการวางอุปกรณ์วัดอุณหภูมิที่ผิวหนังแบบดิจิทัล เช่น หน้าผาก
- ทางทวารหนัก-เหมาะกับเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี
วิธีวัดอุณหภูมิร่างกาย
การวัดอุณหภูมิทางปาก (เครื่องวัดอุณหภูมิชนิดปรอทแก้วหรือดิจิทัล)
- ทำความสะอาดเครื่องวัดอุณหภูมิ ด้วยแอลกอฮอล์ หรือสบู่และน้ำอุณหภูมิห้อง
- กรณีใช้เครื่องวัดอุณหภูมิปรอทแก้วจับให้แน่น สลัดให้ปรอทลงสู่กระเปาะและอ่านอุณหภูมิได้ต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส
- เวลาที่จะวัด ให้อ้าปากกระดกลิ้นขึ้นเล็กน้อย แล้วก็วางเครื่องวัดอุณหภูมิ ไว้ใต้ลิ้น ปิดปากให้สนิท
- กรณีใช้เครื่องวัดอุณหภูมิปรอทแก้วควรระวังอย่ากัดปรอท เพราะจะเป็นอันตรายได้
- กรณีเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิปรอทแก้วควรทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แล้วจึงนำออกจากปาก ยกให้อยู่ในระดับสายตา อ่านผลที่วัดได้
- กรณีเครื่องวัดอุณหภูมิชนิดดิจิทัลต้องใช้ค่าอ่านที่เสียงสัญญาณสุดท้ายแล้วจึงนำออกจากปาก
- ทำความสะอาดเครื่องวัดอุณหภูมิ ด้วยแอลกอฮอล์ หรือสบู่และน้ำ เก็บในที่แห้ง
การวัดอุณหภูมิทางรักแร้
- ทำความสะอาดเครื่องวัดอุณหภูมิ ด้วยแอลกอฮอล์ หรือสบู่และน้ำอุณหภูมิห้อง
- กรณีใช้เครื่องวัดอุณหภูมิปรอทแก้ว จับให้แน่น สลัดให้ปรอทลงสู่กระเปาะและอ่านอุณหภูมิได้ต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส
- เช็ดรักแร้ให้แห้งวางเครื่องวัดอุณหภูมิให้กระเปาะอยู่ช่องกึ่งกลางรักแร้หุบแขนให้แนบชิดลำตัว
- กรณีใช้เครื่องวัดอุณหภูมิปรอทแก้ว ควรทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงนำออกจากรักแร้ ยกให้อยู่ในระดับสายตา อ่านผลที่วัดได้
- กรณีใช้เครื่องวัดอุณหภูมิชนิดดิจิทัลต้องใช้ค่าอ่านที่เสียงสัญญาณแล้วจึงนำออกจากรักแร้
- ทำความสะอาดเครื่องวัดอุณหภูมิ ด้วยแอลกอฮอล์ หรือสบู่และน้ำ เก็บในที่แห้ง
การวัดอุณหภูมิทางหู (การใช้ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์)
- ทำความสะอาดเครื่องวัดอุณหภูมิ ด้วยแอลกอฮอล์ (กรณีใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้อื่นต้องใส่ปลอกทุกครั้ง)
- กรณีวัดอุณหภูมิร่างกายให้จับใบหูยกขึ้น และดึงไปด้านหลัง
- ใส่เครื่องวัดอุณหภูมิเข้าไปในช่องหู รอเสียงสัญญาณ
- ทำความสะอาด เครื่องวัดอุณหภูมิ ด้วยแอลกอฮอล์หลังการใช้ทันทีหรือตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์
- ตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องมือทุก 6 เดือน หรือตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์
การวัดอุณหภูมิทางหน้าผากหรือทางผิวหนัง (การใช้ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์)
- ทำความสะอาดเครื่องวัดอุณหภูมิ ด้วยแอลกอฮอล์
- เช็ดหน้าผากให้แห้ง
- เครื่องวัดอุณหภูมิ ห่างจากหน้าผาก1-5 ซม.หรือตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์
- ทำความสะอาด เครื่องวัดอุณหภูมิ ด้วยแอลกอฮอล์หลังการใช้ทันทีหรือตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์
- ตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องทุก 6 เดือน หรือตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์
แหล่งที่ของข้อมูล :
- คำแนะนำสำหรับการแยกเพื่อสังเกตอาการ ณ ที่พักอาศัย (Self-Quarantine at Home)สำหรับนักเรียน/นักศึกษำที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19)กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, 23 กุมภาพันธ์ 2563 https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/introduction/introduction15_2.pdf สืบค้นข้อมูล 6/03/63
- การวัดอุณหภูมิร่างกาย,หมวดสัญญาณชีพ,แผนกการพยาบาล26 กันยายน 2562 https://www.nurse.kku.ac.th, สืบค้นข้อมูล 6/03/63